ยอดขุนพล หนังควายเผือก หลวงพ่อหม่น วัดคลองสิบสอง ปทุมธานี

.. หนังควายเผือกหลวงพ่อหม่น วัดคลองสิบสอง ปทุมธานี .. ท่านได้ศึกษาวิชาจากพระอาจารย์เนียม วัดคลองสิบสอง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์แล วัดคลองสิบ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ .. พอได้เล่าเรียนจนแตกฉานแก่กล้าจึงได้กราบลาพระอาจารย์เนียม แล้วมาศึกษาเล่าเรียนพุทธาคมกับพระอาจารย์มอญ วัดคลองหนึ่ง ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์จารย์ ท่านมีความเก่งกล้าในการทำตะกรุดหนังหน้าผากเสือและตะกรุดหนังควายเผือกอันเรื่องชื่อของเมืองปทุมธานีเลยทีเดียว
.. ในการทำพระพิมพ์จากหนังครั้งแรกของหลวงพ่อหม่นนั้น ได้ใช้หนังควายเผือกที่ถูกฟ้าผ่าตาย นำมาทำเป็นพระเครื่องและเครื่องรางฯ จัดว่าแปลกเพราะแทนที่จะสร้างด้วยวัสดุมวลสารอย่างอื่น แต่กลับสร้างด้วย "หนังควายเผือก" โดยเอาหนังควายเผือกไปแช่ให้อ่อนตัว จากนั้นก็ใช้แม่พิมพ์ซึ่งทำด้วยเหล็กกล้าตอกกดลงไปบนแผ่นหนังก็จะได้เป็นรูปพระพิมพ์ตามต้องการ แล้วใช้มีดตัดขอบให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมเหมือนพระสมเด็จทั่วๆไป นำไปตากจนหนังแห้งแข็งตัวแล้วจึงเก็บรวบรวมมาปลุกเสก .. ประสบการณ์นั้นมหาอุตม์สุดจะพรรณา กันเขี้ยวสัตว์ กันคุณไสยต่างๆ หายากเนื่องจากสร้างจำนวนน้อย และ มีไม่มากพิมพ์ ลูกศิษย์ที่เคารพท่านเสาะหาไว้ติดตัวมากกว่าพระเครื่องรูปแบบอื่นๆ
.. พระพิมพ์หนังควายเผือกของหลวงพ่อหม่นในปัจจุบันนี้ยากจะหาที่สวยงดงามยาก เหตุเพราะว่าตัวหนังเมื่อตากแห้งและผ่านการเวลานานมักจะหดตัว องค์พระมักลบเลือน บางองค์มองแทบไม่เห็นองค์พระเลย การพิจารณาก็ดูที่ความเก่าของหนังเป็นหลัก (หลวงพ่อหม่น วัดคลองสิบสอง มรณะภาพเมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๓ อายุประมาณ ๘๐ กว่าปี)

.. องค์นี้หนังควายเผือกปั๊มพิมพ์ยอดขุนพล(ทรงเครื่อง) ฐานบัว อักขระยันต์ด้านข้างและใต้ฐานยังพอเห็นลางๆ พิมพ์นี้มาตรฐานและหายากกว่าพิมพ์สมเด็จฯพระพุทธทั่วไป กว้าง 2.3 ซ.ม. สูง 3 ซ.ม. น่าเลี่ยมกันน้ำพึ่งพาพุทธคุณดีครับ ขนาดหนังควายเปล่าๆยังมีพระเกจินำมาม้วนเป็นเครื่องรางฯติดตัว ถือเป็นของทนสิทธิ์อาถรรพ์ เช่นเดียวกับหนังเสือ เขี้ยวงาต่างๆ...