เมฆสิทธิ์ พิมพ์ประภามณทลรัศมี หลวงพ่อทับ วัดอนงค์

รายละเอียด
•••••พระเนื้อเมฆสิทธิ์ ของท่านอาจารย์ทับ วัดอนงค์ฯ พิมพ์ประภามณฑลรัศมี เป็นพิมพ์ที่พบเห็นได้น้อย เพราะเป็นพิมพ์พิเศษที่หายาก และยังไม่มีของฝีมือ ออกมาให้เห็นกัน "มีอ้างอิงอยู่ในหนังสือพระเมฆสิทธิ์ ที่จัดทำโดย...คุณกำพล จารุจันทนากุล (ดำ ท่าพระจันทร์)" ดังที่แนบมาให้ดู เป็นหนังสือพระเมฆสิทธิ์ ที่สมบูรณ์ และดีที่สุดในเวลานี้ ใครยังไม่มีก็ไปหาซื้อมาเก็บ มาอ่าน เป็นความรู้กันซ๊ะ รูปแบบหนังสือสวยงาม เพราะจัดทำโดย ทีมงานพระท่าพระจันทร์ ดังนั้นเรื่องมาตรฐานเขามีสูง จึงไม่ต้องห่วงว่าหนังสือที่ผลิตออกจากที่นี่จะไม่ดี แต่ถ้าหากเพื่อนๆยังหาไม่ได้ โทรมาหาผม_"วัต ท่าพระจันทร์"_ ผมจองเก็บไว้มากพอสมควร พอที่จะแบ่งปันกันได้ และถ้าเป็นลูกค้าร้านเรา ผมจัดส่ง EMS ให้ฟรีครับ เอาเข้าเรื่องพระของเรากันต่อ! พระองค์นี้เป็นพระประเภทแท้ทั่วประเทศ วรรณะเขียวอมเหลืองทอง ที่ใครๆเขาบอกว่าเป็นวรรณะนิยมที่สุด? จริงอะ? แต่พระองค์นี้มีให้เห็นทุกสีที่ควรมี บวกความแวววาว และคราบไคลความเก่าที่ควรเป็น! เข้มขลังมันส์สะใจ ส่าแดง ส่าเหลือง จั้มเขียว สนิมขุม ขึ้นเต็มไปหมด คราบความเก่าบรรเจิด ออกมาให้เห็นกันแบบจะๆ ดูง่ายสบายตาดีครับ_เนื้อหามวลสาร เมฆสิทธิ์ลักษณะนี้ถึงจะสมควรเรียกว่า เนื้อองค์ครูดูมันส์จริงอีกหนึ่งองค์ (วันนี้จึงได้ฤกษ์เปิดองค์โชว์อีกองค์...องค์ที่ 9)

@>>>ไม่เคยได้เป็นดาราเพราะไม่เคยลงโชว์ในหนังสือเล่มไหน...ไม่เคยมีรางวี่รางวัลพ่วงท้ายไม่ว่าอันดับใดๆทั้งสิ้นเพราะไม่เคยส่งประกวดงานใดๆเลย...แต่วันนี้มาลงโชว์ให้เพื่อนๆเห็นว่า"ดาราก็ไม่เคยเป็น รางวัลก็ไม่เคยมี แต่ของที่หายากๆ พิมพ์ทรงพิเศษ สวยๆแชมป์ๆ เนื้อหาโหดๆ มันส์สะใจ ก็ยังมีเก็บอยู่ในรังพระเก่าๆที่ต่างๆอีกมากแต่ ไม่ยอมออกมาโชว์ให้เห็นกัน แล้วเพื่อนๆว่าไง???

•••••เมฆสิทธิ์ พลิกดวง! พระปิดตาเมฆสิทธิ์ของท่านอาจารย์ทับแห่งวัดอนงค์ เมฆสิทธิ์ นั้นเกิดขึ้นจากการเล่นแร่แปรธาตุในยุคหนึ่งของเหล่าท่านปรมาจารย์ที่เข้มขลังทางพระเวท เป็นยุคแห่งการแสวงหา เสาะหามวลสาร ที่มีคุณวิเศษที่แตกต่างจึงมีการนำเอาโลหะ และวัตถุ หลายๆอย่าง นำมาเท คนโบราณเขาเรียกว่า"นำมาสาดหรือซัด"คือหล่อหลอมวัตถุที่ได้มาแต่ละชนิดจนเป็นของเหลวแล้วนำมาสาดใส่กันหรือซัดใส่กัน ให้มวลสารที่แตกต่างรวมกันได้เป็นหนึ่งเดียว และให้เกิดสิ่งใหม่ มวลสารใหม่ คือจากวัตถุธรรมดาแปรเปลี่ยนเป็นวัตถุอาถรรพณ์ที่มีคุณวิเศษยิ่ง(กลับร้ายกลายเป็นดี)ซึ่งจะให้มวลสารที่แตกต่างกันหล่อหลอมให้เข้าเป็นหนึ่งเดียวกันและมีคุณวิเศษเปลี่ยนสี บอกลาง ทางดี ทางร้าย ให้ผู้ใช้ผู้ใส่ ระวัง ไม่ให้ตั้งอยู่ในความประมาท และให้มีคุณวิเศษทางหนุนดวง พลิกดวง ตามความเชื่อและยึดถือเก่าแก่มาแต่โบราณนั้นคงไม่ใช้เรื่องง่ายๆ ซึ่งในยุคเก่านั้นต้นตำหรับสำหรับการเล่นแร่แปรธาตุ ซึ่งถือเป็นอาจารย์ใหญ่ของท่านปรมาจารย์ทั้งหลายทั้งปวง ที่เป็นตำนาน ยิ่งกว่าตำนาน...

•••••ผู้ที่ค้นพบเนื้อเมฆพัด เป็นท่านแรกก็คือ หลวงปู่นาค แห่งวัดห้วยจระเข้ นั่นคือเบอร์1และเป็นสุดยอดแห่งเนื้อเนื้อเมฆพัดทั้งหลายทั้งปวง ส่วนเนื้อเมฆสิทธิ์ ที่มีการสร้างและค้นพบเป็นท่านแรกและถือเป็นเบอร์1 และเป็นตำนานของเนื้อเมฆสิทธิ์ที่เราเอยถึงอยู่นี้ก็จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากท่าน อาจารย์ทับ แห่งวัดอนงค์ ที่คนเก่าแก่โบราณเชื่อนักเชื่อหนาและมีเขียนเป็นหลักฐานในตำราเก่าแก่หลายเล่มว่าเป็นสุดยอด ของการหนุนดวง พลิกดวง(คนที่สวมใส่จะไม่มีวันดวงตก)และถ้าได้ใช้คู่กับ กะลาตาเดียว ของหลวงพ่อน้อย แห่งวัดศรีษะทองจะดีมากเห็นผลทันตาทันใจ จนมีคำโบราณ คำจากผู้เฒ่าผู้แก่ว่าไว้ว่า กะลาแกะราหูอมจันทร์ ของหลวงพ่อน้อยวัดศรีษะทอง ท่านเป็นเจ้าตำหรับ สุดยอดด้านหนุนดวงโชคลาภ ส่วนเมฆสิทธิ์ นั้นสุดยอดด้านการพลิกดวง(เมฆสิทธิ์ พลิกดวง!) เพราะเมฆสิทธิ์เกิดจากการเล่นแร่แปรธาตุจากวัตถุธรรมดาแปรเปลี่ยนเป็นวัตถุอาถรรพณ์ที่มีคุณวิเศษยิ่ง(กลับร้ายกลายเป็นดี) ดังนั้น เมื่อนำสองสิ่งนี้มาใช้ร่วมกัน จึงเกิดผลแห่งความอัศจรรย์ยิ่งกระทั้งผู้ที่ใช้รู้สึกได้ คนที่ดวงดีก็จะเสริมดวง คนที่ดวงตกก็จะหนุนดวง เป็นคำที่ผู้เฒ่าผู้แก่สอนวิธีการใช้กันมาอย่างนั้นตั้งแต่โบร่ำโบราณ ผมผู้เขียน!_วัต ท่าพระจันทร์...ไม่ได้คิดหรือแต่งขึ้นเอง_เป็นความรู้เล็กๆครับ.(กรุณานำบทความออกไปพร้อมเครดิต)