ปลัดขิกเมียหลาย ปลัดผงเหม็น หลวงปู่มี

ปลัดขิกเมียหลาย ปลัดผงเหม็น หลวงปู่มี คิงคองเลี้ยง วัดโพธิ์เจดีย์ลอย อำเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบูรณ์

หลวงปู่มี คิงคองเลี้ยง วัดโพธิ์เจดีย์ลอย อายุ 90 ปี
กระแสจิตล้ำลึก ชี้นิ้วดัชนีเจิมหน้าใคร...คนนั้นรวย เสกแผ่นทองแดงให้กรอบเหมือนขนมเบื้อง
เสกพระสังกัจจายน์กระโดดได้ยังกับแม่ไก่... สุดยอดเกจิอาจารย์ประวัติอัศจรรย์
หนุมานเลี้ยงมาตั่งแต่เล็ก มีที่ไหน... ? อยู่กับหลวงปู่ชม วัดกู่พระโกนา เทพเจ้าแห่งทุ่งกุลา ตั่งแต่ 6 ขวบ (หลวงปู่ชม องค์นี้แม้แต่หลวงปู่แหวน ยังไปพักจำพรรษาเรียนวิชาด้วย )ศิษย์รูปเดียวของหลวงปู่สาย วัดพยัคฆารามที่ยังเหลืออยู่ ศิษย์สืบวิชา หลวงพ่อสาย วัดท้องคุ้ง เจ้าตำรับแหวนพิรอดระบือนาม สมัยเป็นตำรวจมือปราบเคียงคู่ขุนพันธรักษ์ราชเดช
ต.บ้านโภชน์ อ.หนองไผ่ จ. เพชรบูรณ์
หลวงปู่มี ท่านเล่าประวัติของท่านเองแบบไม่ได้โม้... ท่านเกิดที่ทุ่งกุลาร้องให้ ตอนท่านเด็กๆ ไม่มีใครเลี้ยงท่านได้ พ่อแม่ก็เลี้ยงไม่ได้ พ่อเป็นทหารยศพันตรี นำไปถวาย หลวงปู่ชม ผู้เป็นเพื่อน หลวงปู่มั่น แม่ทัพธรรมพระกรรมฐาน หลวงปู่ชมเลี้ยงหลวงปู่โดยให้ พญาลิง 3 ตัว เข้าใจว่าเป็นลิงใหญ่จำพวก “ คิงคอง ” อัศจรรย์มาก ท่านเล่าต่อว่า เรื่องนี้คงจะเป็นวิชาของหลวงปู่ชม ที่เสกหนุมานมาดูแลท่าน วัยหนุ่ม ท่านเดินเท้าจากอีสานเข้าสู่เมืองจีน ไปเรียนวิชา ฝึกพลังภายใน และลมปราณ จากนั้นท่านก็มาเรียนวิชากับหลวงพ่อสาย วัดพยัคฆาราม ยอดเกจิอาจารย์แห่งเมืองลพบุรี ท่านเล่าว่า หลวงปู่สาย ท่านมีดวงตาเป็นลูกไฟ มีมหาอำนาจมาก จากนั้นหลวงปู่ก็ไปเป็นตำรวจมือปราบ เคยเจอ ท่านพลตำรวจตรีขุนพันธรักษ์ราชเดช และแลกเปลี่ยนวิชากัน เพราะต่างมีอาคมเหมือนกัน หลวงปู่เล่าว่า ตอนนั้นขุนพันธ์ฯ มียศ พันตำรวจตรี เท่านั้น ตัวหลวงปู่ มียศเพียง สิบตำรวจโท ขุนพันธ์ฯ ได้บอกวิชาแดนใต้นิยมใช้ ส่วนหลวงปู่บอกวิชามหาอำนาจของหลวงปู่สาย วัดเสือ เป็นการแลกเปลี่ยนกัน หลังจากหลวงปู่ลาออกจากตำรวจ ได้รับพระราชทานยศ “ ร้อยตำรวจตรี ” ท่านบวชอีกครั้งกับหลวงพ่อสาย วัดท้องคุ้ง ปรามาจารย์สายวิชายันต์ตะกร้อระบือนาม หลวงพ่อสายเหมือนรู้ว่า หลวงปู่มี จะบวชไม่สึกเป็นเจ้าอาวาสครองวัด เป็นเกจิอาจารย์ครองใจคน ท่านได้สอนวิชาที่ได้เรียนจาก หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา และ หลวงปู่ศุข วัดปากครองมะขามเฒ่าให้ทั้งหมด …
• สมัยเป็นตำรวจ ท่านเคยปราบ ผ.ก.ค. ยิง ฟัน แม้แต่สู้ด้วยดาบปรายปืน ก็หาทำอันตรายหลวงปู่ไม่
• คราวสร้างโบสถ์หลังนี้ ท่านได้นั่งทำพระสังกัจจายน์ ขนาดบูชาด้วยองค์ท่านเอง ตอนเสกในโบสถ์ ชาวบ้านออกมากว่า เห็นองค์พระสังกัจจายน์ ลอยเต็มโบสถ์ เคลื่อนไป มาเหมือนกับแม่ไก่กระโดด
• คราวที่หลวงปู่ลงตะกรุดให้กับทหารด้วยยันต์ “ เฑาะ ” ตัวเดียว แผ่นทองถึงกับกรอบดังแผ่นขนมเบื้อง ม้วนหักๆ ต้องเอามาให้หลวงปู่เอามือลูบ และ เป่า 3 ที แผ่นโลหะจึงคืนรูป
• คราวที่เถ้าแก่ผลิตโรงเหล็กนำเข้า ขาดทุนจากพิษเศรษฐกิจ ปี 2540 ตระเวรทำบุญกราบพระไปทั่วสารทิศ เจอหลวงปู่มี พอกราบ ท่านชี้นิ้วเจิมหน้า บอกว่า อีก 4 ปีแกจะรวยมาก เถ้าแก่ งง บอกจะเป็นไปไม่ได้ตอนนี้มีหนี้เกือบ 50 ล้าน อีก 4 ปีต่อมา เถ้าแก่คนเดิม มากราบหลวงปู่พร้อมบอกว่า มีเงินหลักสิบล้านตามคำพูดหลวงปู่จริงๆ
• อีกคน เจ้น้อย ตลาดในเมือง โดนโกงเงินหลักล้าน มากราบหลวงปู่ ท่านชี้นิ้วเจิมหน้า บอกว่า แกได้คืนหมด เขาให้ดอกแกด้วย อีก 3 ปีต่อมาก็ได้คืนพร้อมดอกอีก แสนกว่าบาท

ปลัดผงเหม็น (ปลัดเมียหลาย)
สมัยก่อน หลวงปู่ปลูกว่านดอกทอง ไว้หน้ากุฏิ คนมาลาท่านกลับกรุงเทพ จะเด็ดดอกทองต้นหน้ากิติดตัวไป พอกลับมาหนองไผ่อีกที่จะเอาเมียมากราบทุกคน มีคนหนึ่ง มีเมียทำนาอยู่ที่หนองไผ่ มากราบหลวงปู่แล้วเด็ดดอกทองติดตัวไป อีกไม่นาน พาเมียอีกคนมากราบท่าน อีเมียคนเดิมที่ทำนาหน้าดำก็มาร้องโอดโอยว่า หลวงปู่ไม่ช่วย ให้เขาเอาเมียน้อยมาเยอะเย้ยหนู... หลวงปู่ฟังแล้วสะเทือนใจ ท่านจึงทำพิธีเอาน้ำมนต์รดต้นดอกทอง ไม่นาน ดอกทองต้นนี้ยืนต้นตาย
ท่านเก็บมาตากแดดไว้ และเอาดอกทองต้นแห้งใส่กระป๋องพลาสติก แล้วทำพิธีลบผงต่างๆเททับลงไปในกระป๋อง ตอนนั้น มีคนต่างถิ่นต่างที่มากราบหลวงปู่มากมาย สาวแก่ แม่เฒ่า เดินไม่ไหวก็ยังให้ลูกเข็นรถมาหาหลวงปู่ ดูว่าจะไม่ได้การ จึงเอากระป๋องต้นดอกทองมาแขวนที่ต้นมะม่วงหน้ากุฏิ ก็เกิดเรื่องหน้าแปลก มะม่วงต้นนั้นก็เกิดอุดมไปด้วยแมลงภู่แมลงผึ้งทั่วสารทิศ นกแก้วนกแหวน แม้แต่นกป่าสาลิกาก็มาเกาะต้นมะม่วงต้นนี้ ว่านดอกทองโดนผงทับถมแขวนอยู่บนต้นมะม่วงหลวงปู่ได้เสกทับเสกถม เสกเคาะกระป๋องทุกวัน ตากแดดตากฝน ยังขนาดนี้
เดือน4 แรม 12ค่ำ หลวงปู่ท่าน ได้ให้เด็กสอยเอากระป๋องนี้ลงมา มีกลิ่นเหม็นอันเกิดจากว่านดอกทองที่หมักกับผงอยู่นาน ท่านสั่งให้เด็กวัด เอาทำผงตำผสม กล้วย อ้อย น้ำผึ้ง หลวงปู่ได้ให้ผงพิเศษมาอีก 2 ชนิด คือ ผงบ่เสียหัว- บ่ฮื้อเมีย เสียกระบาล และ ผง “ เสียทองท่วมหัวไม่ยอมเสียหัวให้ใคร ” คิดดูว่า รัก หลง กันขนาดนั้น ” ผงที่ได้ หลวงปู่สั่งนัก สั่งหนาว่า “ ห้าม พระ เณร จับถูกผงนี้เป็นอันขาด ” ถ้าจับถูกผงแล้วเกรงว่า จะมีวัวเขากุดมาขวิดไป (ผู้หญิงมาเอาไป)
ปั้นเป็นปลัดขิกตัวเล็ก ๆ หลวงปู่ได้เขียนตะกรุดฝังไว้ที่หัว 1 ดอก สร้างได้แค่ 876 ตัว ผงก็หมด นำมาให้ท่านทำการปลุกเสก ขณะที่เสกไม่เกิดอะไรขึ้นหลวงปู่ร่ายมนต์ปลุกเสกเรียบง่ายในวันเสาร์ ๕ ตรงกับวันที่ 9 กรกฎาคม 2559 แต่พอหลวงปู่ลงมือเจิมปลัด ด้วยนิ้วดัชนี เสียงปลัดกระทบกับพานกราวใหญ่ ที่ยิ่งกว่านั้นตอกย้ำว่าปลัดของหลวงปู่มีชีวิตตรงที่หลวงปู่เอามือลูบพานปลัด ปลัดบางตัวกระโดดติดตามง่ามนิ้วหลวงปู่ อย่างอัศจรรย์
ปลัดผงเหม็น เป็นปลัดที่หมักผงและหลวงปู่ทนเสกผงกลางแจ้ง ตากแดดตากฝน ทดสอบพิสูตรด้วยการเรียกคน เรียกมนุษย์ เรียกสัตว์ออกจากป่ามารุมล้อมผงบนต้นมะม่วง ว่านดอกทองที่หลวงปู่เสกน้ำรดแค่ดอกยังเอาไปได้เมียได้ผัวกันหนักหนา นี่เป็นการทำวิชาเอาว่าดอกทองทั้งเถามาตำผสมผงปั้นมือเป็นปลัดขิกตัวเหม็น จึงเกิดอานุภาพ มากผัวมากเมีย ดึงดูดคนให้มารัก มาหลง มาหามาให้ อดใจไม่ได้ร้องให้มาหากู
ปลัด เมียหลาย หลวงปู่ท่านเรียกเล่นๆ แปลว่าเมียเยอะ มีเมียกันมากๆ ท่านบอกว่า พุทธคุณปลัดผงเหม็นนี้ เด่นในเรื่องเมตตา เสน่หารุนแรง ผู้ชายใช้สาวจะติด ผู้หญิงจะตาม ผู้หญิงใช้ หนุ่มจะถาม ผู้ชายจะมาหา เอาส้มสุกลูกไม้ข้าวของเงินทองมาให้ ถ้าจะให้คนรัก ไม่ต้องไปทำอะไรมาก ให้พกปลัดนี้ และ กลั่นใจว่าคาถาปลุก แต่ถ้าจะให้เขาเมตตาสงสาร ติดเรา ให้เอาปลัดแกว่งน้ำให้กิน จะเป็นผล แต่ถ้ายิ่งกว่านั้น มีหนุ่มมากสาวมาก ก่อเรื่องก่อปัญหา หัวกระไดไม่แห้ง เบื่อเรื่องโลกีวิสัยแล้ว ให้เอาปลัดลอยไปที่แม่น้ำล้ำคลองหรือทางน้ำไหล และให้กลั่นใจว่าคาถาจากหลังมาหน้า อันนี้ก็จะสงบลงได้
พระที่ทำของที่เก่งๆ ท่านไม่ได้ผูกทำให้รัก หลงเมตตา หนุ่มติดสาวตามได้เท่านั้นแต่ท่านบอกวิธีแก้เมื่อจะเลิกใช้ได้ด้วย ... นี้จึงเป็นของจริงยิ่งกว่าอิงนิยาย
ปลัดปลัดเมียหลาย ท่านมีข้อห้าม เด็ดขาด ห้ามพระ ห้ามเณร ใช้เพราะจะมีสาวๆมาที่กุฎีมาก ปลัดนี้เรียกผู้หญิงได้ แล้วจะเป็นข้าศึกต่อพรหมจรรย์
มี แค่ 876 ตัว เท่านั้น ใครจะเอาก็ไปเช่าเอาไปใช้นะ

คาถาปลัด ( เมียหลาย ) ท่องนะโม 3 จบ . . .
โอมละลวยมหาละลวย ชายเห็นชายงวย หญิงเห็นหญิ หลง มึงเห็นหน้ากูให้งวยงง จงใจรัก จะภะกะสะภะคินี กูจะคิดถึงสาวทั้งหลายก็มายินดี จงมาช่วยกูอยู่พร้อมหน้า ภะคินี กูจะคิดถึงสาวทั้งหลายก็มายินดี จงมาช่วยกูอยู่พร้อมหน้า ภะจะกะสะ ทั้งฝูงชนก็มาพะวักพะวงหลงรักใคร่ กูจะมารำลึกถึงเจ้าไท้ ก็มาลืมสวาทรัก จะภะกะสะ กูจะคิดถึงสาวแท้ ก็มาลืมทั้งแม่ทั้งพ่อ จะภะกะสะ พะวักภวังค์ให้จิตคุ้มครั่งตะลึงหลง จะภะกะสะ โอม พระพายเจ้าเอ๋ย เจ้าจงมาชักนำ (เอ่ยชื่อผู้ที่เราปรารถนา) มาจะภะกะสะ มหาละลวยงวยงงจงใจรักแห่งกู จะภะกะสะ ช้างในป่าหลงรักกูก็มาลืมดง จะภะกะสะ ผมอยู่บนหัวก็มาลืมเกล้า จะภะกะสะ ข้าวอยู่ในคอก็มาลืมกลืนอะอึกสะอื้นมาหากู จะภะกะสะ คิดถึงกูอยู่มิได้ อาคัจฉายะ อาคัจฉาหิ อาคัจฉาหิ อาคัจฉายะ สุนะโมโลนะ โมพุทธายะ นะมะพะทะ มานิ อุอุตีติ