ราหูอมจันทร์ กะลาตาเดียว
รายละเอียด
โทรถาม : 0896167250
ในคัมภีร์พระเวทได้กล่าวไว้ว่า “พระราหูเป็นเทพอสูรที่เป็นอมตะไม่มีวันตาย” เพราะตอนที่เหล่าทวยเทพทำพิธีกวนน้ำอมฤตในเกษียรสมุทร (ทะเลน้ำนม) อันเป็นที่ประทับขององค์พระนารายณ์ พระราหูได้แปลงกายเป็นเทวดาแฝงตัวเข้าไปอยู่ในพิธีกรรมด้วย เพราะมิได้รับเชิญ พอน้ำอมฤตเสร็จลอยขึ้นมาจากสะดือทะเล แล้วพระราหูก็รอบเข้าไปดื่มกินก่อน พระนารายณ์รู้เข้าก็ขว้างจักรไปต้องลำตัว ของพระราหูทำให้ขาดจากกันเป็นสองส่วน ซึ่งพระราหูนั้นเดิมที มีหัวเป็นยักษ์ ลำตัวเป็นมนุษย์ ท่อนล่างตั้งแต่เอวลงไปเป็นงู เมื่อโดนตัดด้วยจักรพระนารายณ์นั้น ส่วนท่อนล่างจึงหลุดลอยไปในอากาศ กลายเป็นพระเกตุเทวา ส่วนพระราหูก็เหลือแต่ท่อนบนเท่านั้น จึงผูกอาฆาตโกธรแค้นพระสุริยะเทพ และ พระจันทราเทพมากที่เอาความไปบอก แก่พระนารายณ์ให้ล่วงรู้ในเรื่องที่ตนเอง ดื่มกินน้ำอมฤตเข้าไป ดังนั้นในเวลาที่พระราหูเจอพระอาทิตย์หรือพระจันทร์คราวใด ก็จะจับกินเสียทุกทีไป จึงได้เกิดคติความเชื่อเรื่องสุริยุปราคา และจันทรุปราคาขึ้น
ซึ่งในคัมภีร์โหราศาสตร์ถือว่า เมื่อบุคคลใดที่พระราหูเสวยอายุในช่วงเวลานั้น จะเกิดความรุ่มร้อนมีเคราะห์จะต้องแก้ไข ทำพิธีรับดาวและแก้เคล็ด จึงจะกลับร้ายกลายเป็นดี ซึ่งในคัมภีร์ทางไสยศาสตร์ได้มีการสร้าง หลักวิชาแขนงหนึ่งขึ้นมาเพื่อสนับสนุนความเชื่อในเรื่องพระราหูและช่วยในการแก้ไขดวงชะตานัยว่าต้องการค้านฤทธิ์อำนาจด้านมืดของพระราหู และเอาพลังด้านดีมาใช้ช่วย ส่งเสริมชะตาชีวิตเรียกว่า “เลี่ยงลางร้ายรับลางดี” ซึ่งเรียกว่าการจัดสร้างเครื่องราง ที่ทำจากกะลามะพร้าวตาเดียวนำมาแกะสลักเป็นรูปพระราหูที่เราเรียกกันว่า “กะลาตาเดียวพระราหูอมจันทร์”เหตุที่ต้องใช้กะลาตาเดียวเพราะเป็นของหายากในจำนวนมะพร้าวหลายร้อยหลายพันลูก จะพบเจอกะลาตาเดียวสักลูกจึงเป็นของศักดิ์สิทธิ์มีดีในตัว การนำกะลามาแกะเป็นพระราหู ในกะลาตาเดียว 1 ลูก อาจแกะพระราหูได้เกิน 10 ชิ้น ขึ้นอยู่กับขนาดพระราหูที่จะแกะ และขนาดของกะลาลูกนั้นด้วย จากนั้นจึงแกะลวดลายเป็นรูปพระราหูอมจันทร์ ขัดแต่งให้สวยงามแล้วท่านจะนำมาลงอักขระเลขยันต์ ซึ่งไม่ใช่ของง่าย เพราะทำในช่วงเกิดสุริยะคราสและจันทรคลาสก่อนแล้วเพ่งมองดูเงาดับที่เข้าจับพระอาทิตย์และพระจันทร์ จึงจะใช้เหล็กจารลงอักขระไปบนกะลา หลังจากนั้นครูอาจารย์ท่านจะนำมาปลุกเสกอีกครั้งจนมั่นใจในความเข้มขลังแล้วจึงนำออกแจกจ่ายให้บูชากัน หากใครได้มีโอกาสบูชาแล้วต่างมีประสบการณ์ตรงกัน อุดมด้วยโชคลาภ มหาเสน่ห์ แคล้วคลาดคงกระพันในการบูชามงคลวัตถุใด ๆ ที่จะได้ผลต่อผู้บูชานั้นต้องเริ่มจาก “ความศรัทธา” ศรัทธา คือ ความเชื่อมั่นจากใจจริง พร้อมทั้งการบูชา ที่ประกอบด้วยส่วนสำคัญ 2 ส่วนคือ อามิสบูชา คือ การบูชาด้วยวัตถุสิ่งของ เช่น ดอกไม้ ธูปเทียน ของหวานคาว ตามคติความเชื่อ และการปฏิบัติบูชา เป็นการบูชาด้วยการกระทำ กระทำในสิ่งที่ดี ตามข้อปฏิบัติที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ได้อบรมสอนสั่ง อันมีคุณพระรัตนตรัยเป็นที่ตั้ง การบูชาจึงจะสัมฤทธิ์ผลตามที่โบราณกาลได้กล่าวอ้างมา
2541 ครั้ง
เอียด_สระกระโจม
0896167250