พระกรุวัดสามปลื้ม พิมพ์กลีบบัวใหญ่ เนื้อผง

...พระกรุวัดสามปลื้ม ทุกพิมพ์ พุทธคุณเด่นด้านคงกระพัน แคล้วคลาด และเมตตามหานิยม ..มีหลักฐานการพบพระกรุวัดสามปลื้มสามครั้ง ครั้งแรกประมาณราวปี พ.ศ.๒๔๐๐ โดยพบอยู่ในซากปรักหักพังของพระเจดีย์ ครั้งต่อมาในปีพ.ศ.๒๔๑๔ และ พ.ศ.๒๔๘๓ เมื่อมีการรื้อองค์พระเจดีย์ และในการพบครั้งสุดท้ายนั้นพบมากถึง ๔๐,๐๐๐ กว่าองค์
... เนื้อหามวลสารของพระกรุวัดสามปลื้ม เป็นพระเนื้อผงเนื้อละเอียด สีขาว แก่น้ำมัน มีลักษณะยุ่ย เปราะ และแตกหักง่าย พระที่พบส่วนใหญ่ต้องซ่อมทั้งสิ้น หาองค์สวยสมบูรณ์ค่อนข้างยาก และพระเกือบทั้งหมดลงรักปิดทองก่อนลงกรุ นอกจากนี้ยังมีผู้พบเห็นเนื้อดำใบลานเผา, เนื้อตะกั่ว และเนื้อชิน เมื่อคราวแตกกรุ แต่จำนวนน้อยมาก
...พระกรุวัดสามปลื้ม เป็นพระศิลปะยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น องค์พระประธานประทับนั่ง ปางสมาธิ ทั้งสมาธิเพชร และสมาธิราบ เหนืออาสนะฐานสามชั้น และ เอกลักษณ์พระกรุนี้คือ มีฐานผ้าทิพย์ยาวลงมาที่ฐาน มีหลายพิมพ์ทรง ทั้งพิมพ์ห้าเหลี่ยม สามเหลี่ยม และกลีบบัว เกศแหลม และพิมพ์เศียรโล้น มีทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก
...วัดสามปลื้ม หรือ วัดจักรวรรดิราชาวาส ตามหลักฐานที่บันทึกเป็นวัดที่สร้างมาแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เรียกกันว่า "วัดนางปลื้ม" บ้าง หรือ "วัดสามปลื้ม" บ้าง แต่ชื่อที่คุ้นหูสำหรับคนทั่วไปก็คือ "วัดสามปลื้ม" ..ในรัชสมัยรัชกาลที่ ๑ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯ มีพระราชพงศาวดารกล่าวไว้ว่า " พ.ศ.๒๓๔๓ วันจันทร์ เดือนยี่ ขึ้น ๘ ค่ำ เวลา ๕ โมงเย็น ได้เกิดเพลิงไหม้ที่วัดสามปลื้ม ตลอดลงไปถึงตลาดน้อยวัดสำเพ็ง"
...จนถึงต้นรัชกาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ ท่านเจ้าพระยาอภัยราชา (ปิ่น บรรพบุรุษสกุลสิงหเสนี) ได้เป็นผู้เริ่มปฏิสังขรณ์วัดสามปลื้ม แต่ยังไม่ทันแล้วเสร็จก็ถึงแก่อสัญกรรมก่อน ต่อมาปีพ.ศ. ๒๓๖๒ เจ้าพระยาบดินทรเดชา (สิงห์ ต้นสกุลสิงหเสนี) ผู้เป็นบุตรจึงได้ทำการปฏิสังขรณ์ต่อ โดยมอบให้บุตรชายคนโต ชื่อนายเกต (เจ้าพระยามุขมนตรี ในรัชกาลที่ ๔) เป็นผู้อำนวยการสร้างจากด้านเหนือเข้ามาทางด้านใต้ และให้บุตรชายคนรอง ชื่อนายแก้ว (เจ้าพระยายมราช ในรัชกาลที่ ๔ ) เป็นผู้อำนวยการสร้างจากด้านใต้เข้าไปหาด้านเหนือ บรรจบกันตรงกลาง ได้สร้างพระอุโบสถ เสนาสนะสงฆ์ ศาลาการเปรียญ ตลอดจนขุดคูแม่น้ำเจ้าพระยาเข้ามาจนถึงสระน้ำซึ่งขุดไว้ใช้ภายในวัด แล้วน้อมเกล้าถวายเป็นพระอารามหลวงในสมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า รัชกาลที่ ๓ เมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๓๖๘ พร้อมกับพระราชทานนามใหม่ว่า "วัดจักรวรรดิราชาวาส วรมหาวิหาร"
...การสร้างพระกรุวัดสามปลื้มนี้มีเรื่องเล่ากันว่าคือ ท่านเจ้าพระยาบดินทรเดชา ได้สร้างพระเครื่องโดยผสมกับน้ำมันงาที่เหลือจากการปลุกเสกและได้นำไปใช้ในการรบ ที่องค์พระมีคราบแก่น้ำมันปรากฎอยู่ และนำมาบรรจุกรุพร้อมกับการบูรณะวัด
...คราวเกิดสงครามกรณีพิพาทอินโดจีนกับฝรั่งเศส พระคุณเจ้าพระคุณาจารวัตรได้นำ "พระกรุวัดสามปลื้ม" แจกจ่ายไปตามทหารบก ทหารเรือ ตำรวจ ประสบการณ์สูงจนได้ชื่อว่า ..ทหารผี.. เพราะทหารที่ออกรบโดนปืนยิงล้มลงไป แล้วยังลุกขึ้นมาต่อสู้ใหม่แถมปืนยิงไม่เข้าด้วย จากชื่อเสียงในเรื่องนี้และจากนักเลงที่พกพระกรุวัดสามปลื้มแล้วตีกัน ทำให้พระกรุวัดสามปลื้มเป็นที่นิยมทุกพิมพ์ทั้งสิ้น
...องค์นี้พิมพ์กลีบบัวใหญ่ ฐาน 2.5 ซม. สูง 4.5 ซม. เนื้อผง ลงรักปิดทองเดิมๆจากกรุ สภาพสวย รักษาสภาพได้ดีมาก ไม่หักไม่ซ่อม เจ้าของเดิมเลี่ยมพลาสติกแบบหนาไว้เพื่อรักษาพระ สังเกตจากภายในมีฝุ่นผงเกาะไม่ใสปิ๊ง(ทำให้ถ่ายภาพออกมาไม่ใส) แต่ลงกล้องแล้วคมชัดลึกมีเสน่ห์มาก...สภาพนี้หายากมากๆครับ...